
8 ข้อกำหนด (GAP พืช) ที่เกษตรกรก็สามารถทำได้
การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี
(Good
Agricultural Practices: GAP) คือ แนวทางในการทำการเกษตร
เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีและปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนด
โดยขบวนการผลิตจะต้องปลอดภัยต่อเกษตรกรและผู้บริโภค
ปราศจากการปนเปื้อนของสารเคมีไม่ทำให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมมีการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ผลผลิตสูงคุ้มค่าการลงทุน
มาตรฐาน GAP
เป็นมาตรฐานที่ครอบคลุมการผลิตสินค้าเกษตรอย่างครบวงจร ตั้งแต่
ปัจจัยการผลิต การผลิต การเก็บเกี่ยว การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว การบรรจุหีบห่อ
และการขนส่งการผลิต สำหรับการผลิตสินค้าเกษตร 3 ประเภท
ได้แก่ พืช ปศุสัตว์ และสัตว์น้ำ
ทำไมการทำเกษตร จำเป็นต้องมีมาตรฐาน GAP
ประเทศไทยเป็นผู้ผลิต ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่สำคัญ
แต่ที่ผ่านมาผลผลิตสินค้าเกษตรและ อาหารยังไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคเท่าที่ควร
เนื่องจากมีสารเคมีตกค้าง มีศัตรูพืชและจุลินทรีย์ปนเปื้อน
ทำให้คุณภาพไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
GAP
จึงเป็นระบบการจัดการคุณภาพที่ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของอันตรายที่จะเกิดขึ้นในสินค้าเกษตรและอาหาร
โดยมีข้อกำหนด กฎเกณฑ์และวิธีการตรวจประเมินซึ่งเป็นไปตามหลักการที่สอดคล้องตามหลักการสากล
ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค หรือประเทศคู่ค้าต่าง ๆ
ซึ่งมีข้อบังคับว่าด้วยสินค้าทางการเกษตรที่จะนำเข้าสู่ประเทศนั้น ๆ
จะต้องผ่านมาตรฐานการรับรองที่เป็นสากล
แต่วันนี้ BEDO จะมียกตัวอย่างให้ทุกคนรู้จักกับการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืช (GAP
พืช) ซึ่งกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการตรวจรับรองระบบการจัดการคุณภาพ
การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืช
และรวมไปถึงการจัดทำคู่มือการเพาะปลูกพืชตามหลัก GAP สำหรับพืชที่สำคัญของประเทศไทย
จำนวนกว่า 160 ชนิด เพื่อเผยแพร่ให้เกษตรกรนำไปปฎิบัติตาม
ข้อกำหนด 8 ประการ GAP พืช
1.
น้ำ
ที่ใช้ในกระบวนการผลิตต้องมาจากเเหล่งที่ไม่มีสภาพเเวดล้อมซึ่งก่อให้เกิดการปนเปื้อนต่อผลผลิต
2. พื้นที่ปลูก
ไม่อยู่ในสภาพเเวดล้อมซึ่งก่อให้เกิดการปนเปื้อนวัตถุหรือสิ่งที่เป็นอันตรายต่อผลผลิต
3. วัตถุอันตรายทางการเกษตร
ต้องมีการจัดเก็บเป็นหมวดหมู่ในสถานที่เก็บที่มิดชิดและใช้ตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร
4. การจัดการคุณภาพในกระบวนการเก็บเกี่ยว
ต้องมีแผนควบคุมการผลิตเพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพโดยใช้หลักการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี
5. การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
จะต้องเก็บเกี่ยวผลผลิตที่มีอายุเหมาะสม
ผลผลิตมีคุณภาพตามความต้องการของตลาดและข้อตกลงของประเทศคู่ค้า
6. การพักผลิตผล
การขนย้ายในเเปลงปลูกและการเก็บรักษาผลผลิต
มีการจัดการด้านสุขลักษณะเพื่อป้องกันการปนเปื้อนที่มีผลต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
7. สุขลักษณะส่วนบุคคล
ผู้ปฏิบัติงานต้องมีความรู้ ความเข้าใจในสุขลักษณะส่วนบุคคล
เพื่อสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกสุขลักษณะ
8. การบันทึกข้อมูลและการตามสอบ
มีการบันทึกข้อมูลการปฏิบัติงานการใช้สารเคมี ข้อมูลผู้รับซื้อและปริมาณผลผลิต
เพื่อประโยชน์ต่อการตามสอบ