
มันเทศสามสี
สุดยอดวัตถุดิบมากประโยชน์
มันสารพัดสีที่ไม่ได้มีดีแค่สวย
แต่ยังอร่อยและมีคุณค่าทางอาหารมากมาย
ปัจจุบันมันเทศเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของไทย
ปลูกง่าย โตไว ให้ผลผลิตตลอดปี แล้วยังเป็นอาหารที่อยู่คู่ครัวไทยมานาน
จะหยิบจับเอามาทำขนม ของว่าง เอามาต้มยำทำแกง เป็นเมนูอร่อยได้สารพัด และมันเผาคงเป็นของว่างที่ทุกคนต้องลองสักครั้ง
มันเทศเนื้อสีเหลืองทองเป็นประกาย ส่งกลิ่นหอม รสหวานนุ่มลิ้น เผามาร้อนๆ
ช่วยคลายหนาวได้ดียิ่ง
มันเทศถือเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่สำคัญอันดับ
5
ของโลก รองจากข้าวสาลี ข้าวเจ้า ข้าวโพด และมันฝรั่ง
เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ช่วยทำให้ร่างกายได้พลังงานต่อเนื่องและระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มคงที่สม่ำเสมอ
ทำให้ไม่หิวบ่อย และเส้นใยอาหารยังช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย
มันเทศที่พบได้ในตลาดบ้านเรานั้น
ส่วนมากจะพบได้ 3 สี นั่นคือสีส้ม
สีเหลือง และสีม่วง มันเทศที่มีสีต่างกันเหล่านี้ จะมีสารอาหารบางชนิดต่างกัน
มันเทศในตระกูลสีม่วง มีสารแอนโธไซยานีนและฟลาโวนอยด์
ทำหน้าที่ยับยั้งการจับตัวกันของออกซิเจนและคอเรสเตอรอลชนิดไม่ดี (Low
Density Lipoprotein หรือ LDL) ในกระบวนการออกซิเดชั่น
หรือเรียกแบบเข้าใจกันง่ายๆ ว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ป้องกันโรคมะเร็ง
และช่วยรักษาอาการของโรคเบาหวาน
ส่วนมันเทศในตระกูลสีส้มและสีเหลืองนั้นก็ไม่น้อยหน้ามีสารเบต้าแคโรทีนและแคโรทีนอยด์อยู่เป็นจำนวนมากซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดหนึ่ง
เบต้าแคโรทีนยังเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ซึ่งช่วยในการพัฒนาสุขภาพสายตาและการมองเห็น
ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ นอกจากวิตามินเอแล้ว
มันเทศยังอุดมด้วยวิตามินซี วิตามินบี 3 (ไนอะซิน)
วิตามินบี 5 (กรดแพนโธธินิค) และวิตามินบี 6 ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงสมองและระบบประสาท
ช่วยผ่อนคลายความเครียด ลดอาการหงุดหงิด
นอกจากนั้น
เปลือกของมันเทศยังอุดมด้วยโปแตสเซียมซึ่งมีส่วนช่วยรักษาสมดุลของโซเดียมในร่างกาย
ช่วยระบบความดันเลือด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิต กินได้โดยนำมันเทศไปต้มหรือนึ่งทั้งหัว
เคล็ดลับความอร่อยของคนภาคเหนือ คือกินมันเทศนึ่งจิ้มน้ำพริก กินทั้งเปลือก
รสหวานๆ ของมันเทศนั้นช่วยดับความเผ็ดของน้ำพริกได้อย่างดี ไม่แพ้ฟักทองนึ่งเลย
เคล็ดลับการนำมันเทศไปประกอบอาหาร
1. มันเทศสีม่วงไม่นิยมนำไปทำอาหารคาว
ด้วยความที่เมื่อนำไปประกอบอาหารจำพวกต้มแกง
สารสีม่วงที่ชื่อแอนโธไซยานินจะละลายออกมาปะปนกับน้ำแกง ทำให้ดูไม่น่ารับประทาน
แต่ก็มีวิธีนำไปประกอบอาหารคาวบางวิธี เช่น นำไปนึ่งรับประทานกับน้ำพริก
นำไปอบกับน้ำมันมะกอกจนสุก กินกับสลัด หรือจะนำไปชุบแป้งทอดเป็นเทมปุระก็ได้ กลับกัน
มันเทศสีม่วงมักถูกนำไปประกอบอาหารหวานและขนมหวานมากกว่า
เพราะของหวานที่มีสีสันฉูดฉาดอย่างสีม่วงหรือสีม่วงอมแดง
จะดูน่ารับประทานเป็นพิเศษ
สามารถใช้มันม่วงมาบดทำเป็นส่วนประกอบของครีมเค้กหรือทาร์ต
หรือผสมลงในตัวแป้งขนมไทยและขนมเทศได้หลากหลาย เช่น ขนมมันเทศ ขนมไข่เต่า ตะโก้
บัวลอย ขนมปังมันเทศ เป็นต้น
2. มันเทศที่นิยมนำมาประกอบอาหารคาว
มักเป็นมันเทศสีเหลืองและสีส้ม ซึ่งเราจะพบในเมนูต้ม แกง
ใช้แทนมันฝรั่งได้ในเมนูอาหารไทย อย่างเช่น ต้มจืด ต้มจิ๋ว แกงเผ็ด แกงกะหรี่
หรือในอาหารเอเชียและอาหารตะวันตกก็มีการใช้มันเทศแทนมันฝรั่งอยู่บ้าง
เช่นในเมนูมันทอดโคโรเกะ มันบด
เฟรนช์ฟรายส์ใช้ผสมในแป้งพาสต้าหรือทำเป็นไส้พาสต้าบางชนิด เช่น ย็อคกี้
หรือราวิโอลี
แหล่งที่มา
:
https://krua.co/cooking_post/yam-recipes/