คุณกำลังอยู่ที่

มกราคม 18, 2023341 5


มันเทศสามสี สุดยอดวัตถุดิบมากประโยชน์

มันสารพัดสีที่ไม่ได้มีดีแค่สวย แต่ยังอร่อยและมีคุณค่าทางอาหารมากมาย

ปัจจุบันมันเทศเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของไทย ปลูกง่าย โตไว ให้ผลผลิตตลอดปี แล้วยังเป็นอาหารที่อยู่คู่ครัวไทยมานาน จะหยิบจับเอามาทำขนม ของว่าง เอามาต้มยำทำแกง เป็นเมนูอร่อยได้สารพัด และมันเผาคงเป็นของว่างที่ทุกคนต้องลองสักครั้ง มันเทศเนื้อสีเหลืองทองเป็นประกาย ส่งกลิ่นหอม รสหวานนุ่มลิ้น เผามาร้อนๆ ช่วยคลายหนาวได้ดียิ่ง

มันเทศถือเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่สำคัญอันดับ 5 ของโลก รองจากข้าวสาลี ข้าวเจ้า ข้าวโพด และมันฝรั่ง เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ช่วยทำให้ร่างกายได้พลังงานต่อเนื่องและระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มคงที่สม่ำเสมอ ทำให้ไม่หิวบ่อย และเส้นใยอาหารยังช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย

มันเทศที่พบได้ในตลาดบ้านเรานั้น ส่วนมากจะพบได้ 3 สี นั่นคือสีส้ม สีเหลือง และสีม่วง มันเทศที่มีสีต่างกันเหล่านี้ จะมีสารอาหารบางชนิดต่างกัน มันเทศในตระกูลสีม่วง มีสารแอนโธไซยานีนและฟลาโวนอยด์ ทำหน้าที่ยับยั้งการจับตัวกันของออกซิเจนและคอเรสเตอรอลชนิดไม่ดี (Low Density Lipoprotein หรือ LDL) ในกระบวนการออกซิเดชั่น หรือเรียกแบบเข้าใจกันง่ายๆ ว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ป้องกันโรคมะเร็ง และช่วยรักษาอาการของโรคเบาหวาน

ส่วนมันเทศในตระกูลสีส้มและสีเหลืองนั้นก็ไม่น้อยหน้ามีสารเบต้าแคโรทีนและแคโรทีนอยด์อยู่เป็นจำนวนมากซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดหนึ่ง เบต้าแคโรทีนยังเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ซึ่งช่วยในการพัฒนาสุขภาพสายตาและการมองเห็น ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ นอกจากวิตามินเอแล้ว มันเทศยังอุดมด้วยวิตามินซี วิตามินบี 3 (ไนอะซิน) วิตามินบี 5 (กรดแพนโธธินิค) และวิตามินบี 6 ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงสมองและระบบประสาท ช่วยผ่อนคลายความเครียด ลดอาการหงุดหงิด

นอกจากนั้น เปลือกของมันเทศยังอุดมด้วยโปแตสเซียมซึ่งมีส่วนช่วยรักษาสมดุลของโซเดียมในร่างกาย ช่วยระบบความดันเลือด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิต กินได้โดยนำมันเทศไปต้มหรือนึ่งทั้งหัว เคล็ดลับความอร่อยของคนภาคเหนือ คือกินมันเทศนึ่งจิ้มน้ำพริก กินทั้งเปลือก รสหวานๆ ของมันเทศนั้นช่วยดับความเผ็ดของน้ำพริกได้อย่างดี ไม่แพ้ฟักทองนึ่งเลย

เคล็ดลับการนำมันเทศไปประกอบอาหาร

1. มันเทศสีม่วงไม่นิยมนำไปทำอาหารคาว ด้วยความที่เมื่อนำไปประกอบอาหารจำพวกต้มแกง สารสีม่วงที่ชื่อแอนโธไซยานินจะละลายออกมาปะปนกับน้ำแกง ทำให้ดูไม่น่ารับประทาน แต่ก็มีวิธีนำไปประกอบอาหารคาวบางวิธี เช่น นำไปนึ่งรับประทานกับน้ำพริก นำไปอบกับน้ำมันมะกอกจนสุก กินกับสลัด หรือจะนำไปชุบแป้งทอดเป็นเทมปุระก็ได้ กลับกัน มันเทศสีม่วงมักถูกนำไปประกอบอาหารหวานและขนมหวานมากกว่า เพราะของหวานที่มีสีสันฉูดฉาดอย่างสีม่วงหรือสีม่วงอมแดง จะดูน่ารับประทานเป็นพิเศษ สามารถใช้มันม่วงมาบดทำเป็นส่วนประกอบของครีมเค้กหรือทาร์ต หรือผสมลงในตัวแป้งขนมไทยและขนมเทศได้หลากหลาย เช่น ขนมมันเทศ ขนมไข่เต่า ตะโก้ บัวลอย ขนมปังมันเทศ เป็นต้น

2. มันเทศที่นิยมนำมาประกอบอาหารคาว มักเป็นมันเทศสีเหลืองและสีส้ม ซึ่งเราจะพบในเมนูต้ม แกง ใช้แทนมันฝรั่งได้ในเมนูอาหารไทย อย่างเช่น ต้มจืด ต้มจิ๋ว แกงเผ็ด แกงกะหรี่ หรือในอาหารเอเชียและอาหารตะวันตกก็มีการใช้มันเทศแทนมันฝรั่งอยู่บ้าง เช่นในเมนูมันทอดโคโรเกะ มันบด เฟรนช์ฟรายส์ใช้ผสมในแป้งพาสต้าหรือทำเป็นไส้พาสต้าบางชนิด เช่น ย็อคกี้ หรือราวิโอลี

 

แหล่งที่มา : https://krua.co/cooking_post/yam-recipes/

URL อ้างอิง:
5

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไปหมายความว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขและนโยบายความเป็นส่วนตัว.

ยอมรับ รายละเอียด
© BEDO eLIBRARY. All Right reserved Powered by Bookdose Co., Ltd. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อกำหนดและเงื่อนไข